ในแง่ของการทำ Reverse Mortgage ซึ่งถือเป็นการสร้างที่พึ่งด้วยตนเองมากที่สุด
เรามาทำความรู้จักกับมันคร่าวๆกันดีกว่าครับ
เมื่อบุคคลเข้าสู่วัยเกษียณ (แต่อาจยังเกษียณไม่ได้) ก็อาจจะยังมีเงินส่วนหนึ่งจากรายได้ที่ยังหาได้อยู่ หรือจากเงินเก็บ หรือสวัสดิการบำนาญ เป็นต้น
แต่หากบุคคลนั้นต้องการเงินอีกส่วนหนึ่งเพื่อมาใช้เป็นรายเดือน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ดำรงชีพ รักษาพยาบาล หรือใช้เพื่อความจำเป็นอื่นๆ
การทำ Reverse Mortgage ก็จะเป็นทางเลือกสำหรับแหล่งเงินได้ในส่วนนั้น
หลักการคร่าวๆคือ เอาสินทรัพย์ที่เป็นบ้านหรือคอนโดที่อาศัยอยู่ในขญะนั้น ซึ่งปลอดภาระจำนองแล้ว เข้าทำ Reverse Mortgage กับทางสถาบันการเงิน
โดยเปรียบเสมือนเอาบ้านเข้าจำนองอีกรอบ แต่แทนที่จะเป็นการรับเงินก้อนใหญ่ตามมูลค่าบ้านมาใช้แล้วผ่อนชำระหนี้และเสียดอกเบี้ยให้กับธนาคาร
จะเปลี่ยนเป็น ธนาคารทยอยให้เงินกลับมาให้เป็นรายเดือนแทน โดยมีการทำสัญญาว่าบ้านจะเป็นตกเป็นกรรมสิทธิของทางธนาคารเมื่อจบสัญญา โดยทางธนาคารจะให้เงินรายเดือนรวมดอกเบี้ยไปจนกว่าผู้ทำสัญญาจะเสียชีวิตหรือจบสัญญา
ในกรณีที่จะให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของการทำ Reverse Mortgage ตัวอย่างของสัญญาคือ
ตอนเริ่มต้นที่จะเข้าทำโครงการนี้ ทางธนาคารย่อมต้องมีการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ กำหนดวงเงินที่ให้ กำหนดอัตราดอกเบี้ย มีการประเมินระยะเวลาที่จะจ่ายเงินเป็นรายเดือนให้ (ประเมินอายุขัย)
เมื่อมีการจ่ายเงินเป็นรายเดือนให้แล้ว หากผู้ทำสัญญาเสียชีวิตโดยที่จำนวนเงินรายเดือนรวมดอกเบี้ยที่ได้รับน้อยกว่ามูลค่าบ้าน ทางธนาคารก็จะคืนส่วนต่างให้กับทายาท หรืออาจะเป็นการเสนอให้ทายาทรับซื้อทรัพย์สินคืนได้โดยที่ไม่ต้องขายทอดตลาด
แต่ถ้าทยอยรับเงินรายเดือนรวมดอกเบี้ยเกินมูลค่าบ้านไปแล้วยังมีชีวิตอยู่ ธนาคารก็จะยังคงให้เงินรายเดือนไปตามสัญญาจนกว่าผู้ทำสัญญาจะเสียชีวิต ส่วนต่างที่ธนาคารชำระเกินก็อาจจะถือเป็นความเสี่ยงที่ธนาคารรับไป (ในบางประเทศจะเรียกคืนจากทายาท)
การทำ Reverse Mortgage จะเหมาะสมกับบุคคลที่ไม่ได้มีครอบครัวใหญ่ ต้องการกระแสเงินสดในการเลี้ยงดูตนเอง และอาจไม่ได้ต้องการให้ทรัพย์สินเช่นบ้านที่ตนอาศัยอยู่นั้น เป็นมรดกตกทอดแก่ลูกหลาน
กระทรวงการคลังได้วางแผนให้สถาบันการเงินเฉพาะบางแห่งเริ่มทำโครงการนี้โดยมีข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับผู้ที่จะทำ Reverse Mortgage คร่าวๆว่า
- มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
- มีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่อยู่อาศัยนั้นๆ
- กรณีมีคู่สมรสก็ให้รับสิทธิต่อเนื่องจนกว่าจะหมดอายุสัญญาหรือเสียชีวิตทั้งคู่
ซึ่งรูปแบบของสัญญานั้นจะทราบชัดเจนเมื่อมีการเริ่มทำโครงการนี้ขึ้นโดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่กระทรวงการคลังมอบหมายภารกิจให้ รวมถึงธนาคารพาณิชย์อื่นๆในประเทศไทย
ข้อกำหนดอาจจะมีการระบุเงื่อนไขต่างๆให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์จริงๆเช่น ต้องเป็นผู้อาศัยหลักในบ้านนั้น ต้องทำประกันชีวิตด้วย หรือข้อกำหนดทางภาษี เป็นต้น