หลายๆคนอาจสงสัยว่า ทำไมต้องวางแผนการเงินด้วย พ่อแม่หรือที่โรงเรียนก็ไม่เคยพูดไม่เคยสอนเรื่องนี้เลย
หลายๆคนอาจจะบอกว่า แค่จะกินจะใช้ ให้เดือนชนเดือนยังไม่พอเลย จะเอาที่ไหนไปวางแผน
บางคนอาจคิดว่าทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องยุ่งยาก ก็แค่มีเงินเหลือเก็บ แล้วเอาเงินไปลงทุนตามความรู้ความถนัดของตัวเอง ก็น่าจะโอแล้ว หรือบ้างอาจจะคิดว่า ตอนนี้ก็มีเงินตั้งเยอะแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องวางแผนเลย กินใช้ยังงัยก็ไม่หมด
ผมอยากจะบอกว่า ใช่ครับ คุณไม่จำเป็นต้องวางแผนการเงินเลยครับ ถ้าคุณไม่ได้ใส่ใจว่า"เป้าหมายในชีวิตของคุณ" สำคัญกับคุณแค่ไหน แต่ถ้าคุณคิดว่าเป้าหมายนั้นๆสำคัญและต้องสำเร็จ ผมคิดว่าคุณคงต้อง"จำเป็น" ครับ
ไม่แปลกครับที่คุณอาจไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ จากพ่อแม่ หรือจากโรงเรียน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหน คุณก็ต้องวางแผนครับ ถ้าคุณอยู่ในฐานะแบบใช้จ่ายเดือนชนเดือน มีหนี้อีกเยอะต้องจัดการ คุณต้องรีบออกจากวังวนนั้นให้เร็วที่สุด ถ้าคุณเป็นพวกมีเงินเหลือเก็บ คุณยิ่งต้องตรวจสอบครับว่า สิ่งที่คุณทำอยู่นั้น ช่วยให้เป้าหมายคุณเป็นจริงหรือไม่ และถ้าคุณมีเงินเหลือกินเหลือใช้ คุณยิ่งต้องวางแผนเลยครับว่าจะทำยังงัยให้ความมั่งคั่งนี้อยู่กับคุณตลอดไป
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุผลครับ
ความไม่แน่นอนของชีวิต
เพราะชีวิตคือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป เอ้อ ไม่ใช่ละ เพราะชีวิตคือความไม่แน่นอน บางครั้งสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นได้ ใครจะคิดว่าปี 2553 จะมีจราจลกลางเมือง ปี2554 น้ำจะท่วมใหญ่ และอีกหลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา บางเหตุการณ์อาจเป็นอุปสรรคเล็กๆในชีวิต แต่บางเหตุการณ์อาจเป็นอุปสรรคใหญ่ ที่ทำให้เรารับมือได้ยาก ดังนั้นการมีเงินสดฉุกเฉิน (Emergency Fund) และการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) จึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
โครงสร้างทางสังคมเปลี่ยนแปลงไป
เดิมสังคมไทยเป็นครอบครัวขยาย พี่ ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย อาศัยอยู่ด้วยกัน หรือใกล้ๆกัน สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ง่าย คนยุคก่อนมีลูกเยอะ 8 คน 10 คน ตอนแก่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะจะมีลูกๆมาช่วยดูแลเค้าได้ แต่ปัจจุบันคนสมัยใหม่แต่งงานช้าลง มีลูกน้อยลง หรือบางทีไม่มีเลย เป็นโสดอีกตะหาก ดังนั้นในอีก 20 ปีข้างหน้า สังคมไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว ดังนั้นภาระดูแลผู้สูงวัยเหล่านี้ รัฐคงไม่สามารถช่วยดูแลได้ จะหวังพึ่งลูก ก็ไม่มีลูก หรือมีลูกน้อยเกินไป จนไม่สามารถพึ่งได้ คนแก่เหล่านี้จำเป็นต้องพึ่งตัวเองเป็นหลักครับ ดังนั้นการวางแผนเกษียณ (Retirement Planning) จะมีความจำเป็นมากขึ้น สำหรับคนยุคปัจจุบัน
การมีลูกน้อยลงของคนยุคใหม่ ทำให้คนยุคใหม่ใส่ใจกับความสำคัญของลูกมากขึ้น ต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกๆ โดยเฉพาะการศึกษา จะเห็นได้ว่าเด็กยุคใหม่ส่วนใหญ่เรียน bilingual มากขึ้น นอกจากเรียนในโรงเรียนแล้ว พ่อแม่ยังให้ไปเรียนพิเศษ เรียนดนตรี กีฬา อีกตะหาก ดังนั้นการวางแผนการศึกษาให้กับลูก (Education Fund) จึงมีความสำคัญมากขึ้นเช่นกันครับ
โครงสร้างดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลงไป
สมัยเราเป็นเด็กๆ เราทุกคนคงถูกสอนให้ออมเงินและนำเงินออมไปฝากธนาคารใช่มั้ยครับ มันถูกต้องเลยครับ เพราะการฝากเงินที่ธนาคารในสมัยก่อน เป็นตัวเลือกแทบจะตัวเลือกเดียวที่คนทั่วไปทำได้ เพราะยุคนั้นไม่มีสินค้าทางการเงินให้เลือกมากนัก และดอกเบี้ยในธนาคารก็เยอะมาก น้องๆหลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารของไทยเราเคยมากกว่า 10 % ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงในอดีต แล้วมาดูตอนนี้สิครับ อัตราดอกเบี้ยในธนาคารปัจจุบัน ถ้าฝากออมทรัพย์ ก็ 0.75% ฝากประจำก็ 2 % กว่าๆ ดังนั้นการฝากเงินในธนาคารอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีนักเหมือนในอดีต ดอกเบี้ยทบต้น 10 % จะทำให้เงินต้น 100 บาทกลายเป็น 200 บาท ในเวลา 7.2 ปี แต่ดอกเบี้ย 2% จะต้องใช้เวลาถึง 36 ปี คงเห็นแล้วใช่มั้ยครับว่าเราคงอาศัยการฝากเงินในธนาคารอย่างเดียวไม่ได้แล้ว
เสียดายนะครับ เนื้อที่วันนี้ไม่พอ ผมคงต้องขออนุญาตยกยอดไปต่อในครั้งหน้า แล้วเรามาดูกันนะครับว่ามีสาเหตุอะไรอีกที่ทำให้การวางแผนทางการเงินมีความสำคัญมากขึ้น
ตอนที่สอง
บทความตอนที่แล้วผมได้เรียนให้ทราบแล้วนะครับว่า สาเหตุที่การวางแผนการเงินมีความสำคัญมากขึ้น เพราะเหตุใด และนี่คือข้อมูลเพิ่มเติมจากตอนที่แล้วครับว่า ทำไมเราต้องวางแผนทางการเงินกัน
ผลิตภัณฑ์ทางการเงินมีความซับซ้อนมากขึ้น
สินค้าการเงินในปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น แค่กองทุนรวม ก็มีเยอะแยะจนเลือกไม่หวาดไหว ตราสารหนี้ ตราสารทุน ระยะสั้น กลาง ยาว ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ เอาแค่กองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษี LTF RMF ที่หลายๆคนต้องซื้อเพื่อลดหย่อนภาษี เชื่อมั้ยครับหลายๆคนเลือกซื้อกองทุนเพราะมันสะดวก ใกล้ที่ทำงาน ใกล้บ้าน หรือซื้อตามเพื่อนโดยที่ไม่รู้เลยว่า แต่ละกองนั้นมีความแตกต่างกันยังงัย ในด้านนโยบายการลงทุน ผลประกอบการ หรือ ความเสี่ยง แล้วกองไหนล่ะครับที่เหมาะสมกับเรา เหมาะสมกับเป้าหมายของเราที่สุด
ค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น
ครับ ผมกำลังพูดถึงเงินเฟ้อ เงินเฟ้อทำให้เราต้องจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าเท่าเดิม นอกจากนี้เงินเฟ้อยังเป็นศัตรูตัวร้ายของความมั่งคั่งที่เรามี เชื่อมั้ยครับ ถ้าเรามีเงิน 100,000,000 บาท ด้วยเงินเฟ้อ 4% เงินเราจะด้อยค่าลงเหลือครึ่งนึงใน 18 ปี พูดง่ายๆ คือ เงิน 100 ล้านบาท ในวันนี้จะเหลือค่าแค่ 50 ล้านบาท ใน 18 ปีข้างหน้า และเหลือแค่ 25 ล้านบาทในอีก 36 ปีข้างหน้า เห็นมั้ยครับว่า เงินเฟ้อกัดกร่อนความมั่งคั่งเราไปมากขนาดไหน ดังนั้นการวางแผนการลงทุน (Investment Planning) จึงจำเป็นเพือรักษาความมั่งคั่งของเราไม่ให้ลดลง
เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ดีขึ้น
สมัยก่อนคนเราอายุสั้น เพราะเครื่องมือทางการแพทย์นั้นยังไม่ทันสมัย แต่สมัยนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ดีขึ้นมาก โรคร้ายแรงในอดีต แพทย์ปัจจุบันสามารถรักษาได้ โรคเดิมที่เคยรักษาได้อยู่แล้ว ปัจจุบันก็สามารถรักษาได้ดีขึ้น เช่นการผ่าตัดหน้าท้อง สมัยนี้สามารถใช้กล้องและอุปกรณ์ประเภท Minimal Invasive ผ่าตัดให้คนไข้ ทำให้แผลเล็ก เจ็บน้อย คนไข้ไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่สิ่งที่ตามมาคือ ค่ารักษาที่แพงขึ้นมาก ย้ำอีกครั้งว่า มว้ากกกก เชื่อมั้ยครับ สมัยนี้ ผ่าตัดไส้ติ่ง ค่าใช้จ่ายเกินแสนบาท โอ๊ บร๊ะเจ้า มันจะแพงอะไรขนาดนั้น สมัยก่อนการผ่าตัดเนื้องอกที่สมองต้องเปิดกระโหลก สมัยนี้ใช้ แกมม่าไน้ฟ์ (Gamma Knife) ผ่าตัดได้ไม่ต้องเปิดกระโหลกศีรษะทำให้คนไข้ไม่บอบช้ำมาก แน่นอนครับ ค่าใช้จ่ายแพงขึ้นมหาศาล ถ้าเราเลือกได้ระหว่าง 30 บาทรักษาทุกโรค ประกันสังคม หรือโรงพยาบาลเอกชนห้าดาว เราคงอยากใช้บริการอย่างหลังมากกว่าจริงมั้ยครับ ดังนั้นการวางแผนเรื่องประกันสุขภาพ (Medical Insurance Planning) จึงเข้ามามีความสำคัญมากขึ้น
ความมั่งคั่งของคนในสังคมมากขึ้น
ปัญหาของคนไม่มี คือ ไม่มีสมบัติให้ลูกหลาน ปัญหาของคนมั่งมี คือ จะแบ่งยังงัยให้เหมาะสม ลูกหลานไม่ทะเลาะกัน เห็นมั้ยครับใช่ว่าคนรวยจะไม่มีปัญหา แต่ปัญหามันต่างกันเท่านั้นเอง สมัยก่อนความมั่งคั่งอยู่มีอยู่แต่คนชั้นสูง ดังนั้นการส่งมอบมรดกเป็นเรื่องของคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่ปัจปัจจุบันสังคมไทยเริ่มมีชนชั้นกลางมากขึ้น พูดง่ายๆคือ คนไทยมีคนรวยมากขึ้นกว่าในอดีต ดังนั้นการจัดการส่งมอบความมั่งคั่งให้กับทายาทจะมีความสำคัญมากขึ้น การวางแผนมรดก (Estate Planning) จะเข้ามาช่วยจัดการให้ความมั่งคั่งของเรา ถูกส่งต่อให้เหมาะสม และลดปัญหาเหล่านี้ได้
ถึงตรงนี้หลายๆท่านคงเห็นด้วยกับผมแล้วนะครับว่า เราคงต้องให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินกันแล้วล่ะ
ใครอยากวางแผนการเงิน ยกมือขึ้นครับ ^^
วรพจน์ เกตุอร่าม, CFP®
Premier Wealth Management Co.,Ltd.